วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2562

แปลเพลง Wanted by OneRepublic

       



  สวัสดีวันเสาร์สดใสค่ะ เมื่อวานนี้มีข่าวดีของวงโปรดของเราพึ่งจะออก single ใหม่มาค่ะ ก็คือเพลง wanted นั่นเอง เป็นซิงเกิลที่ 2 ต่อมาจากเพลง rescue me ค่ะ ซึ่งอัลบัมใหม่นี้เห็นว่าจะปล่อยเดือน September นี้ค่ะ ตั้งแต่คอนเสิร์ตคราวก่อนที่ OneRepublic มาไทยก็คิดถึงหนุ่มๆมากๆเลยค่ะ ดีใจที่ Ryan ปล่อยเพลงนี้มาให้หายคิดถึงค่ะ แถมยังเป็นเพลงที่ไพเราะและมีความหมายมากๆเพลงนึงค่ะ ลองไปฟังกันดูเลยค่ะ ps ใน mv เพลงนี้พี่หมีโชว์สเต็ปการเต้นสวยพริ้วมากค่ะคุณผู้ชมมมม





Wanted by OneRepublic




[Verse 1]

She said "every time I close my eyes I feel like I could disappear

I could overflow an ocean with the cavalcade of all my tears
And I know I sound dramatic, but that's just how it feels"
She said "I'm holdin' to the notion that I'll find something real"


เธอพูดว่า "ทุกๆครั้งที่ฉันหลับตา ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวฉันสามารถหายไปได้ 
ฉันล่องลอยไปในมหาสมุทรกับขบวนน้ำตาที่อาบเต็มสองแก้มของฉัน
 และฉันรู้ว่ามันฟังดูดราม่า แต่นั่นมันคือสิ่งที่ฉันรู้สึกจริงๆ " 
เธอบอกว่า "ฉันยึดติดกับความคิดที่ว่า ฉันจะพบกับบางอย่างที่มันเป็นจริง"




[Chorus]
Yeah I just want to be wanted, oh
I could use a little love sometimes
I just need to be needed, oh
Like to know I'm crossin' someone's mind
I just want to be someone that somebody needs
I just want to be more than a drop in the sea
I just want to be



ใช่ ฉันอยากเป็นที่ต้องการ
บางครั้งฉันอาจใช้ความรักเล็ก ๆ น้อย ๆ 
ฉันก็แค่อยากจะเป็นคนที่ใครๆต้องการ โอ้ 
 แบบว่า รู้สึกเหมือนมีใครสักคนกำลังคิดถึงฉันอยู่
ฉันก็แค่อยากจะเป็นคนที่มีใครสักคนปรารถนา
ฉันแค่อยากจะเป็นมากกว่าหยดน้ำหยดนึงในทะเล 
ฉันแค่อยากจะเป็น...



[Verse 2]
She said "I'm countin' up my karma and I think it's time to cash it in (cash it in)
So tired of livin' in a shadow of a mountain of what might've been (might've been)
And I know I sound dramatic but that's just how it feels
I've been looking for somebody to tell me that I'm real"


เธอพูดว่า "ฉันเฝ้าคิดถึงสิ่งต่างๆที่ฉันเคยทำมา มันถึงเวลาแล้วที่จะถอนตัวออกมา
ฉันเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินกับการใช้ชีวิตใต้เงาของภูเขาของสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น* (อาจจะเกิดขึ้น) 
และฉันรู้ว่ามันฟังดูดราม่า แต่นั่นมันคือสิ่งที่ฉันรู้สึกจริงๆ 
ฉันกำลังมองหาใครบางคนที่จะบอกฉันได้ว่า ฉันนี่แหละของจริง"



[Chorus]
I just want to be wanted (oh)
I could use a little love sometimes
I just need to be needed (oh)
Like to know I'm crossin' someone's mind
I just want to be someone that somebody needs
I just want to be more than a drop in the sea


ใช่ ฉันอยากเป็นที่ต้องการ
ฉันอาจใช้ความรักเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบางครั้ง
ฉันก็แค่อยากจะเป็นคนที่ใครๆต้องการ โอ้ 
  แบบว่า รู้สึกเหมือนมีใครสักคนกำลังคิดถึงฉันอยู่
ฉันก็แค่อยากจะเป็นคนที่มีใครสักคนปรารถนา
ฉันแค่อยากจะเป็นมากกว่าหยดน้ำหยดนึงในทะเล 



[Bridge]
I just want to be wanted
Oh yeah
We just want to be wanted
Oohh

[Outro]
I just want to be wanted
I could use a little love sometimes
I just need to be needed
Like to know I'm crossin' someone's mind

ฉันอยากเป็นที่ต้องการ
โอ้เย้
เราแค่อยากจะเป็นคนที่มีคนต้องการ
โอ้
ฉันแค่อยากเป็นคนที่ใครๆต้องการ
อาจใช้ความรักเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบางครั้ง
ฉันก็แค่อยากจะเป็นคนที่ใครๆปรารถนา
 แบบว่า รู้สึกเหมือนมีใครสักคนกำลังคิดถึงฉันอยู่..



คำศัพท์


1. Cavalcade = parade ขบวนม้า หรือยานพาหนะในพิธี

2. notion (n.) = a thought or idea ความคิด

3. A drop in the sea, A drop in the ocean (idiom) = A tiny amount, especially when compared to a much larger one. เป็นสิ่งเล็กๆ เปรียบเหมือนเป็นแค่หยดน้ำเล็กในทะเลกว้างใหญ่ ที่ไม่มีความสำคัญอะไร

4. Shadow of a mountain คำนี้ในเพลงมีคนให้ความหมายว่า เหมือนอยู่อีกฝั่งนึงของภูเขาที่โดนบังไว้ เวลาฝนตกก็จะไม่ได้รับน้ำฝนเพราะมีภูเขาบังอยู่ มีแต่ความแห้งแล้ง อดอยาก เหมือนอยู่ผิดฝั่งของภูเขาค่ะ



วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559

แปลเพลง 11 Blocks by Wrabel







          "สิบเอ็ดช่วงตึก ระยะทางจากบ้านของผมถึงหน้าประตูของเธอ" ใครบางคนทำให้เราดั้นด้นพยายามทำทุกอย่างเพียงเพื่อไปเห็นหน้าเธอคนนั้น ฟังเพลงนี้แล้วเราชอบมากเลยค่ะ เข้าใจความรู้สึกเวลาที่หลงรักใครสักคนเลยค่ะ ลองไปฟังดูค่ะ






11 Blocks by Wrabel

[Verse 1]
11 blocks from my door to your doorstep
Three years later and it feels too close
I thought I broke the last of that breakdown
The morning I sold your winter coat
It doesn't feel right when I'm grabbing a coffee
The same old spot, but I'm on my own
I feel OK in the day, but at nighttime
You know how I get when I'm alone

สิบเอ็ดช่วงตึก ระยะทางจากประตูบ้านผมไปถึงหน้าประตูบ้านของเธอ
ผ่านมาสามปีแล้ว และผมรู้สึกว่ามันช่างใกล้ขึ้นมาเหลือเกิน
ผมเคยคิดว่า ผมได้ทิ้งทุกชิ้นส่วนความทรงจำที่มีเธออยู่ไปแล้ว
ตั้งแต่เช้าวันที่ผมขายเสื้อโค๊ทของเธอทิ้งไป
รู้สึกเหมือนทะแม่งๆ ตอนที่ผมหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม
ตรงที่เดิมๆ แต่มีผมเพียงแค่คนเดียวแล้ว
ในตอนเช้าผมรู้สึกว่าตัวเองโอเค ผมสบายดี แต่พอตกค่ำหนะสิ
เธอก็รู้ว่าผมจะเป็นยังไง ตอนที่ผมต้องอยู่คนเดียว



[Chorus]
Cause my mind won't stop; it's just 11 blocks
I know that you're home
Cause it's Friday night; you're not that type
I know that you're home

เพราะว่าผมไม่สามารถจะหยุดคิดถึงมันได้เลย มันแค่สิบเอ็ดช่วงตึกเท่านั้น
ผมรู้ ว่าเธอจะอยู่ที่บ้าน
เพราะมันเป็นคืนวันศุกร์ และเธอก็ไม่ใช่คนประเภทนั้น (ที่ออกไปสังสรรค์คืนวันศุกร์)
ผมรู้อยู่เต็มอก ว่าเธอจะอยู่ที่บ้านนั่นแหละ



[Verse 2]
14 blocks from your door to this party
I caught myself counting on the way
And right when I stepped in the door to the party
I stepped outside to grab a smoke
You know how I get when I'm alone, no

มีงานปาร์ตี้ห่างไป 14 ช่วงตึกจากบ้านของเธอ
ผมตระหนักว่าผมกำลังเดินไปทางนั้น
และตอนที่ผมเดินตรงไปเหยียบผ่านเข้าประตูของงานปาร์ตี้นั้น
ผมเดินออกมาเพื่อที่จะหาสูบบุหรี่สักหน่อย
เธอก็รู้หนิ ว่าผมจะเป็นยังไง เมื่อผมต้องอยู่คนเดียว ไม่นะ




[Chorus]
Cause my mind won't stop; it's just 14 blocks
I know that you're home
Cause it's Friday night; you're not that type
I know that you're home
Someone stop me, please, from hurting myself
Cause I'm two blocks away and you're hurting my health
And it's Friday night; you're not that type
I know that you're home

เพราะว่าผมไม่สามารถจะหยุดคิดถึงมันได้เลย มันแค่สิบเอ็ดช่วงตึกเท่านั้น
ผมรู้ ว่าเธอจะอยู่ที่บ้าน
เพราะมันเป็นคืนวันศุกร์ และเธอก็ไม่ใช่คนประเภทนั้น (ที่ออกไปสังสรรค์คืนวันศุกร์)
ผมรู้อยู่เต็มอก ว่าเธอจะอยู่ที่บ้านนั่นแหละ
ใครก็ได้ ขอร้องหล่ะ ช่วยหยุดผมที หยุดผมจากการทำร้ายตัวเองอย่างนี้
เพราะเหลืออีกแค่สองช่วงตึก และเธอกำลังร้ายสุขภาพผมเนี่ย
และเพราะมันเป็นคืนวันศุกร์แห่งชาติ เธอไม่ใช่คนผู้หญิงประเภทนั้น
ผมรู้ว่าเธอจะอยู่ที่บ้านนั่นแหละ



[Post-Chorus]
Somebody stop me
I should be going home
Somebody stop me
Oh, yeah, yeah, yeah

ใครก็ได้หยุดผมที
ผมควรจะกลับบ้านไปได้ละ
ใครสักคน หยุดผมที
โอ้ว



[Bridge]
Well, I met someone
And I think I'm in love

เรื่องก็คือว่า ผมไปเจอใครคนนึงเข้า
และผมคิดว่าผมกำลังตกหลุมรักเข้าซะแล้ว



[Chorus]
But my mind won't stop; it's just 11 blocks
I know that you're home
Cause it's Friday night; you're not that type
I know that you're home
And, I met someone and I swear I'm in love
But I'm two blocks away and you're just like a drug
My mind won't stop; it's just 11 blocks
I know that you're home

แต่ผมไม่อาจหยุดคิดถึงมันได้เลย มันก็แค่สิบเอ็ดช่วงตึกเท่านั้น
ผมรู้ว่าคุณอยู่ที่บ้านนั่นแหละ
เพราะว่ามันเป็นคืนวันศุกร์ และคุณก็ไม่ใช่ผู้หญิงประเภทนั้น
ผมรู้อยู่เต็มอก คุณอยู่ที่บ้านนั่นแหละ
และ ผมคิดว่าผมเจอใครบางคน และผมสาบานได้เลยว่าผมกำลังตกหลุมรักเธอ
แต่เหลืออีกแค่สองบล็อคถึดไปแค่นั้น และคุณช่างเป็นเช่นดังเช่นสารเสพติดอย่างไรอย่างนั้น
จิตใจของผมไม่อาจอยู่สุขได้เลย ระยะทางเพียงแค่สิบเอ็ดช่วงตึกเท่านั้น
ผมรู้ว่าเธอจะอยู่ที่บ้านนั่นแหละ




[Post-Chorus]
I got somebody
Waiting for me at home
I got somebody
Oh, yeah, yeah, yeah

ผมมีใครบางคน
ที่กำลังรอผมอยู่ที่บ้าน
ผมมีใครบางคน
โอ้วว



[Outro]
11 blocks from my door to your doorstep
Three years later and it feels too close

สิบเอ็ดช่วงตึก ระยะทางจากประตูบ้านผมไปถึงหน้าประตูบ้านของเธอ
ผ่านมาสามปีแล้ว และผมรู้สึกว่ามันช่างใกล้ขึ้นมาเหลือเกิน

วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2559

แปลเพลง Capsize by Frenship ft. Emily Warren



                 ยอมรับว่าเพลงนี้ติดหูตั้งแต่ฟังครั้งแรกเลยค่ะ ตอนแรกเราว่าเมโลดี้เพราะดี พอไปเปิดฟังอีกทีชอบเนื้อหาของเพลงมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก แหม เพลงนี้มักจิ๊กๆเจ็บแปร๊บๆยังไงชอบกลค่ะ Frenship เค้ากระซิบบอกว่า "เหล่าโปรดิวเซอร์ชาวสวีเดนได้สร้างบทเพลงแห่งความสุขปนเศร้าขึ้นมา มันคือการผสมผสานความรู้สึกที่คุณไม่ค่อยจะเข้าใจมันเท่าไหร่หรอก ทั้งด้านที่มันสร้างสรรค์และที่มืดหม่น เราชื่นชอบแนวเพลงที่มันสามารถรวมเอาความแตกต่างของความรู้สึกเหล่านั้นมาไว้ในเพลงๆเดียว"

"Swedish producers make happy-sad songs, where it’s a combinations of feelings you don’t quite understand—both uplifting and dark. We like that style of music that can wrap a bunch of different feelings into one song."

เนื้อหาของเพลงพูดถึงคู่รักเก่าที่กำลังถอยห่างกันหลังจากพึ่งแตกหักกันค่ะ แต่ว่าแต่ละท่อนของบทเพลงนี้นั้น สื่อความหมายไม่เหมือนกัน และไม่ต่อเนื่องกันด้วยค่ะ นั่นก็เพราะว่าคนแต่งเพลวนี้ตีความบทเพลงแตกต่างกันนั่นเองค่ะ ทำให้เพลงมีหลากหลายอารมณ์ และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ของเพลงนี้ค่ะ



ฟังแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเพลงนี้มีดีขนาดไหน ลองไปฟังกันเต็มๆดูค่ะ



Capsize
FRENSHIP

Featuring Emily Warren
Produced By Scott Hoffman & FRENSHIP
Album Truce EP



Hey-ey-ey-ey-yeah
Hey-ya, hey-ya, hey
Hey-ey-ey-ey-yeah
Hey-ya, hey-ya, hey

Up at night I'm awake 'cause it haunts me
That I never got to say what I wanted
Oh my God, oh my God
I'm not the same as I was with you
I would jump out my skin just to get you
Oh my God, oh my God

ผมตื่นขึ้นมากลางดึก ยังหลับไม่ลงเพราะบางสิ่งตามหลอกหลอนผมอยู่
มันก็คือ ผมจะไม่มีวันได้พูดในสิ่งที่ผมต้องการได้เลย
โอ้พระเจ้า โอ้พระเจ้า
ผมไม่ใช่คนๆเดิมกับตอนที่ผมอยู่กับเธอ
ผมยอมที่จะทำอะไรบ้าๆทุกสิ่งทุกอย่างหากมันจะทำให้ผมได้คุณคืนมา
โอ้พระเจ้า โอ้พระเจ้า



How could you have ever known
If I never let it show, now I just wanna know are you?

เธอจะไปรู้ได้ยังไง
ถ้าผมไม่ได้แสดงมันออกมาให้คุณได้รู้ และตอนนี้ผมอยากรู้ว่า คุณเป็น..?



I'm fine
Drop tears in the morning
Give in to the lonely
Here it comes with no warning
Capsize, I'm first in the water
Too close to the bottom
I'm right back where I started
Said I'm fine

ฉันสบายดี
ก็แค่น้ำตาที่มันไหลรินในตอนเช้า
ฉันยอมแล้วกับความเหงา
มันมาแบบไม่มีปีไม่มีขลุ่ยเอาซะเลย
เหมือนเรือทั้งลำคว่ำลงไป คว่ำลงไปในน้ำ
จมลงไปใกล้กับก้นทะเลเหลือเกิน
เหมือนฉันกลับไปอยู่ในที่ๆมันเริ่มต้น
และฉันบอกไปว่า ฉันสบายดี





Hey-ey-ey-ey-yeah
Hey-ya, hey-ya, hey
Hey-ey-ey-ey-yeah
Hey-ya, hey-ya, hey

Your silhouette is burned in my memory
Rubble left from the moment that you left me
Oh my God, oh my God
And three words have never come easy
'Cause you're more than they ever could be
Oh my God, oh my God

ผมยังคิดถึงภาพของเธออยู่ในความทรงจำของผม
ยังมีเศษเสี้ยวความทรงจำของที่หลงเหลือในตอนที่เธอเดินจากผมไป
โอ้พระเจ้า โอ้พระเจ้า
และสามคำนั้นมันไม่ง่ายเลยที่จะพูดออกมา
เพราะว่า เธอเป็นมากกว่าที่ใครๆจะเป็นได้
โอ้พระเจ้า โอ้พระเจ้า




How could you have ever known
If I never let it show, now I just wanna know are you?

เธอจะไปรู้ได้ยังไง
ถ้าผมไม่ได้แสดงมันออกมาให้คุณได้รู้ และตอนนี้ผมอยากรู้ว่า คุณเป็น..?




I'm fine
Drop tears in the morning
Give in to the lonely
Here it comes with no warning
Capsize, I'm first in the water
Too close to the bottom
I'm right back where I started
Said I'm fine

ฉันสบายดี
ก็แค่น้ำตาที่มันไหลรินในตอนเช้า
ฉันยอมแล้วกับความเหงา
มันมาแบบไม่มีปีไม่มีขลุ่ยเอาซะเลย
เหมือนเรือทั้งลำคว่ำลงไป คว่ำลงไปในน้ำ
จมลงไปใกล้กับก้นทะเลเหลือเกิน
เหมือนฉันกลับไปอยู่ในที่ๆมันเริ่มต้น
และฉันบอกไปว่า ฉันสบายดี




Hey-ey-ey-ey-yeah
Hey-ya, hey-ya, hey
Hey-ey-ey-ey-yeah
Hey-ya, hey-ya, hey

I'm swimming up against the tide
Oh my God
I'm swimming but I'm getting tired
Oh my God
I'm swimming up against the tide
Oh my God
I'm swimming but I'm getting tired
Oh my God

ฉันต้องว่ายน้ำผ่ากระแสน้ำเชี่ยวกราดนี้
โอ้พระเจ้า



Yeah, I'm fine
Drop tears in the morning
Give in to the lonely
Here it comes with no warning (No warning)
Capsize, I'm first in the water
Too close to the bottom
I'm right back where I started
Said I'm fine (Fine)

ฉันสบายดี
ก็แค่น้ำตาที่มันไหลรินในตอนเช้า
ฉันยอมแล้วกับความเหงา
มันมาแบบไม่มีปีไม่มีขลุ่ยเอาซะเลย
เหมือนเรือทั้งลำคว่ำลงไป คว่ำลงไปในน้ำ
จมลงไปใกล้กับก้นทะเลเหลือเกิน
เหมือนฉันกลับไปอยู่ในที่ๆมันเริ่มต้น
และฉันบอกไปว่า ฉันสบายดี สบายดี




Hey-ey-ey-ey-yeah
Hey-ya, hey-ya, hey (Said I'm fine)
Hey-ey-ey-ey-yeah
Hey-ya, hey-ya, hey

(I think about you, love you, and I'm filled with pride)

ฉันคิดถึงคุณ ​รักคุณ แต่ตัวฉันเองมันเต็มไปด้วยศักดิ์ศรี


Songwriters
SCOTT HOFFMAN, BRETT HITE, EMILY SCHWARTZ, JAMES SUNDERLAND


วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559

แปลเพลง Where I Stood by Missy Higgins


            ใครที่เป็นคอซีรีย์ฝรั่งอาจจะเคยได้ยินได้ฟังเพลงๆนี้ค่ะ Where I stood ร้องและแต่งโดย Missy Higgins ศิลปินสาวชาวออสซี่ ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่สองในอัลบัมที่สองของเธอ On a clear night ค่ะ เพลงนี้ถูกใช้ในซีรีย์หลายๆเรื่องเลยค่ะ ทั้ง Grey's Anatomy, Ghost Whisperer, The Hills, NCIS รวมทั้ง Pretty Little Liars ด้วยค่ะ 





ลองไปฟังกันดูค่ะ




Where I stood

I don't know what I've done
Or if I like what I've begun
But something told me to run
And honey, you know me, it's all or none

ฉันไม่รู้หรอกว่าทำอะไรลงไปบ้าง
หรือแม้แค่เพียงคิดว่าอยากจะทำอะไร
แต่มีบางอย่างบอกฉันว่าฉันควรจากไปโดยเร็ว
และที่รัก คุณก็อาจะรู้แล้วก็ได้นะ




There were sounds in my head
Little voices whispering
That I should go and this should end
Oh, and I found myself listening

มีเสียงพร่ำบอกดังก้องในหัวของฉัน
เสียงกระซิบอันแผ่วเบา
บอกให้ฉันเดินจากไป และเรื่องนี้ควรจะจบลงสักที
โอ้ ฉันรู้สึกว่าฉันเริ่มจะรับฟังเสียงนั้นแล้วแหละ 




'Cause I don't know who I am, who I am without you
All I know is that I should
And I don't know if I could stand another hand upon you
All I know is that I should
'Cause she will love you more than I could
She who dares to stand where I stood

เพราะฉันไม่รู้จริงๆว่าฉันคือใคร จะเป็นยังไงนะถ้าไม่มีเธอ
แต่ฉันก็รู้ว่าควรทำอย่างนั้น
ฉันไม่รู้ว่า ฉันจะยังยืนข้างๆกุมมือคุณได้อีกรึเปล่า
ที่ฉันรู้คือ ฉันควรจะทำอะไร
เพราะรู้ดีว่า เขาคนนั้นรักเธอมากกว่าฉัน
และเธอก็กล้าพอที่จะเข้ามายืนในจุดที่ฉันเคยยืนอยู่




See, I thought love was black and white
That it was wrong or it was right
But you aren't leaving without a fight
And I think, I am just as torn inside

ฟังนะ ดูเหมือนว่าฉันคิดว่าความรักเป็นสี ดำกับขาว เท่านั้น
นั่นคือมีแค่ถูก หรือผิด
เราไม่ได้มีปากเสียงกันสักนิดเมื่อเธอเดินจากไป
แต่ฉันคิดว่า ในใจฉันนี่ได้แตกสลายเป็นเสี่ยงๆไปแล้ว




'Cause I don't know who I am, who I am without you
All I know is that I should
And I don't know if I could stand another hand upon you
All I know is that I should
'Cause she will love you more than I could
She who dares to stand where I stood

เพราะฉันไม่รู้จริงๆว่าฉันคือใคร จะเป็นยังไงนะถ้าไม่มีเธอ
แต่ฉันก็รู้ว่าควรทำอย่างนั้น
ฉันไม่รู้ว่า ฉันจะยังยืนข้างๆกุมมือคุณได้อีกรึเปล่า
ที่ฉันรู้คือ ฉันควรจะทำอะไร
เพราะรู้ดีว่า เขาคนนั้นรักเธอมากกว่าฉัน
และเธอก็กล้าพอที่จะเข้ามายืนในจุดที่ฉันเคยยืนอยู่  



And I won't be far from where you are if ever you should call
You meant more to me than any one I, I've ever loved at all
But you taught me how to trust myself
And so I say to you, this is what I have to do

ฉันจะไปไหนไม่ไกลนักหรอก หากเธอคิดอยากจะมาเยี่ยมเยือนหรือโทร หาบ้าง
เพราะเธอมีความหมายต่อฉันมากกว่าใครๆ ที่ฉันเคยรักทั้งหมด
แต่เธอก็สอนฉันให้เรียนรู้ที่จะเชื่อตัวเอง นี่ล่ะมังที่ฉันจึงต้องบอกคุณ
ว่านี่แหละ คือสิ่งที่ฉันต้องทำ




'Cause I don't know who I am, who I am without you
All I know is that I should
And I don't know if I could stand another hand upon you
All I know is that I should
'Cause she will love you more than I could
She who dares to stand where I stood
She who dares to stand where I stood

เพราะฉันไม่รู้จริงๆว่าฉันคือใคร จะเป็นยังไงนะถ้าไม่มีเธอ
แต่ฉันก็รู้ว่าควรทำอย่างนั้น
ฉันไม่รู้ว่า ฉันจะยังยืนข้างๆกุมมือคุณได้อีกรึเปล่า
ที่ฉันรู้คือ ฉันควรจะทำอะไร
เพราะรู้ดีว่า เขาคนนั้นรักเธอมากกว่าฉัน
และเธอก็กล้าพอที่จะเข้ามายืนในจุดที่ฉันเคยยืนอยู่ 
และเธอก็กล้าพอที่จะเข้ามายืนในจุดที่ฉันเคยยืนอยู่ 





Songwriters
MELISSA MORRISON HIGGINS

















วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

แปลเพลง Without You by Avicii feat. Sandro Cavazza






      Without You หรือที่แปลเป็นไทยว่า ไม่มีคุณ หรือ ปราศจากคุณ ให้ความรู้สึกสะเทือนใจหรือเศร้าสลดใจอยู่ไม่ใช่น้อยเลย หาก you คนนั้นคือคนสำคัญของคุณ คนที่รัก คนที่คุณใส่ใจ หรือคนรู้ใจของคุณเอง หากวันหนึ่งคนๆนั้นไม่ได้อยู่ตรงนั้นข้างๆคุณ คุณอาจจะรู้สึกแบบที่เพลงนี้กำลังบรรยายค่ะ 

     Without you เพลงนี้ที่เสนอในวันนี้เป็นเพลงของ Avicii ค่ะ หรือก็คือ หนุ่ม Tim Bergling ดีเจ โปรดิวเซอร์ชาวสดีเวนที่รู้จักดีในวงการเพลง House หรือ EDM นั่นเองค่ะ featering กับ Sandro Cavazza นักร้องชาวสวีเดนเช่นกัน เพลงนี้เป็นเพลงเปิดตัวของหนุ่มทิมในช่วงปีนี้ค่ะ เป็นปีสุดท้ายที่หนุ่มทิมประกาศเลิกทัวร์แล้วค่ะ น่าเศร้าใจจริงๆ แต่ก็ยินกับการเริ่มต้นใหม่ของเค้าไปกับเพลงนี้กันค่ะ





Without You by Avicii (feat. Sandro Cavazza)



You said that we would always be
Without you I feel lost at sea
Through the darkness you'd hide with me
Like the wind we'd be wild and free

คุณเคยบอกกับผมว่าเราจะมีกันอยู่แบบนี้
หากไม่มีคุณ ผมก็เหมือนคนที่หลงทางอยู่กลางทะเล
ท่ามกลางความมืดมิด คุณจะซ่อนตัวอยู่กับผม
เหมือนกับสายลมนั่นแหละ เราจะเป็นอิสระเสรี



You said you'd follow me anywhere
But your eyes tell me you won't be there

คุณบอกกับผมว่าคุณจะตามผมไปทุกหนทุกแห่ง
แต่ดวงตาของคุณบอกผมว่าคุณจะไม่อยู่ที่แห่งนั้น (ที่เราจะไปกัน)



I've gotta learn how to love without you
I've gotta carry my cross without you
Stuck in the middle and I'm just about to
Figure it out without you
And I'm done sitting home without you
Fuck I'm going on without you
I'm gonna tear this city down without you
I'm goin' Bonnie and Clyde without you

ผมคงต้องเรียนรู้วิธีรักโดยปราศจากคุณ
ผมคงต้องแบกความทุกทั้งหลายของผมโดยไม่มีคุณ (cross ก็คือ ไม้กางเขนค่ะ)
ติดอยู่ระหว่างทางอย่างงี้ และผมก็กำลังจะ
พยายามผ่านมันไปให้ได้ ถึงแม้จะไม่มีคุณ
และผมก็เหนื่อยเหลือเกินกับการเอาแต่นั่งอยู่บ้านที่ไม่มีคุณ
ให้ตายสิ ผมต้องออกไปข้างนอกโดยไม่มีคุณ
ผมจะต้องพังเมืองนี้ลงโดยไม่มีคุณ
ผมจะเป็นคู่รักจอมโจร Bonnie และ Clyde โดยปราศจากคุณ



Now I'm running away my dear
From myself and the truth I fear
My heart is beating I can't see clear
How I'm wishing that you were here

และตอนนี้ผมกำลังวิ่งหนี ที่รัก
จากตัวของผมเอง และความเป็นจริงที่ผมกลัว
หัวใจของผมมันกำลังเต้น และมันไม่ชัดเจนเลย
ว่าผมขอให้คุณอยู่ที่นี่กับผม



You said you'd follow me anywhere
But your eyes tell me you won't be there

คุณบอกกับผมว่าคุณจะตามผมไปทุกหนทุกแห่ง
แต่ดวงตาของคุณบอกผมว่าคุณจะไม่อยู่ที่แห่งนั้น (ที่เราจะไปกัน)



I've gotta learn how to love without you
I've gotta carry my cross without you
Stuck in the middle and I'm just about to
Figure it out without you
And I'm done sitting home without you
Fuck I'm going out without you
I'm gonna tear this city down without you
I'm goin' Bonnie and Clyde without you

ผมคงต้องเรียนรู้วิธีรักโดยปราศจากคุณ
ผมคงต้องแบกความทุกทั้งหลายของผมโดยไม่มีคุณ (cross ก็คือ ไม้กางเขนค่ะ)
ติดอยู่ระหว่างทางอย่างงี้ และผมก็กำลังจะ
พยายามผ่านมันไปให้ได้ ถึงแม้จะไม่มีคุณ
และผมก็เหนื่อยเหลือเกินกับการเอาแต่นั่งอยู่บ้านที่ไม่มีคุณ
ให้ตายสิ ผมต้องออกไปข้างนอกโดยไม่มีคุณ
ผมจะต้องพังเมืองนี้ลงโดยไม่มีคุณ
ผมจะเป็นคู่รักจอมโจร Bonnie และ Clyde โดยปราศจากคุณ


วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2559

แปลเพลง Die a Happy Man by Thomas Rhett

     

  สวัสดีค่ำคืนก่อนวันสงกรานต์ปีใหม่ไทยค่ะพี่น้องชาวไทย วันนี้คลึ้มอกคลึ้มใจยังไงไม่รู้ เลยอยากจะแปลเพลงเพราะๆความหมายดีๆเพลงนี้ค่ะ Die a Happy Man แต่งและร้องโดย นักร้อง Country คนนี้ค่ะ Thomas Rhett ซึ่งแต่งให้กับภรรยาของเค้าเองค่ะ ว่าสิ่งที่เค้าต้องการที่สุดในชีวิตก็คือความรักของเธอ และถึงแม้ว่าสิ่งที่เค้ามีทั้งหมดในชีวิตคือเธอคนเดียว เค้าก็สามารถนอนตายตาหลับได้ค่ะ

          ความไพเราะของเพลงนี้ถ่ายทอดมาเป็นภาษาไทยยากมากค่ะ เพราะว่ามันไพเราะมากในตัวมันเอง ลองไปเสพกันค่ะ

ปล. เพลงนี้ฮอตฮิตในหมู่แฟนเพลง country ยุคใหม่ค่ะ นอกจากนี้แล้วนักร้อง R&B อย่าง nelly ก็เอาเพลงนี้ไป cover อีกด้วยค่ะ ไพเราะไปอีกแบบค่ะ



แอบบอกว่าใน mv นี้ภรรยาของ Thomas ก็มาร่วมจอยด้วยค่ะ 





Baby last night was hands down
One of the best nights
That I've had no doubt
Between the bottle of wine
And the look in your eyes and the Marvin Gaye
Then we danced in the dark under September stars in the pourin' rain.


ที่รัก..ค่ำคืนวันก่อนนี้มันช่างง่ายดาย
มันคือค่ำคืนที่แสนวิเศษที่สุดที่ผมไม่สงสัยลังเลเลยว่า
ให้เลือกระหว่างขวดไวน์
การได้จ้องมองไปยังดวงตาของคุณ กับ มาร์วิน เกย์
ผมเลือกที่จะเต้นรำไปกับคุณในความมืดท่ามกลางดวงดาวและสายฝนหลั่งรินในเดือนกันยายน



And I know that I can't ever tell you enough
That all I need in this life is your crazy love
If I never get to see the Northern Lights
Or if I never get to see the Eiffel Tower at night
Oh if all I got is your hand in my hand
Baby I could die a happy man
Happy man, baby, hmmmm.


และผมก็รู้ว่า ผมไม่สามารถจะบรรยายความรู้สึกทั้งหมดของผมให้คุณฟังได้
ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมต้องการในชีวิตนี้ ก็คือความรักของคุณ
และถ้าหากว่าผมไม่สามารถที่จะไปดูแสงเหนือได้
หรือไม่ได้สัมผัสกับความงดงามของหอไอเฟลยามค่ำคืนละก็
โอ้ แต่ถ้าทั้งหมดที่ผมมีคือมือของคุณกุมมือของผมอยู่แล้วละก็ที่รัก
ผมก็สามารถนอนตายตาหลับได้แล้วแหละ
ตายอย่างมีความสุขเลยแหละที่รัก




Baby and that red dress brings me to my knees
Oh but that black dress makes it hard to breathe
You're a saint, you're a goddess, the cutest, the hottest, the masterpiece
It's too good to be true, nothing better than you
In my wildest dreams.


ที่รัก เวลาที่คุณใส่เดรสสีแดงนั้น มันทำให้ผมแทบจะทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้น
โอ้ย แต่ชุดเดรสสีดำตัวนั้น ก็ทำให้ผมแทบจะหายใจไม่ออกเชียวหล่ะ
คุณคือนักบุณ คุณคือเทพธิดา คุณน่ารักที่สุด ฮอทที่สุด คุณคือผลงานชิ้นโบว์แดง
มันดีเกินกว่าที่จะเป็นความจริง(นี่ผมฝันไปรึเปล่า) ไม่มีอะไรเทียบเทียมคุณได้เลย
ในความฝันบ้าๆของผม


And I know that I can't ever tell you enough
That all need in this life is your crazy love
If I never get to see the Northern Lights
Or if I never get to see the Eiffel Tower at night
Oh if all I got is your hand in my hand
Baby I could die a happy man, yeah.


และผมก็รู้ว่า ผมไม่สามารถจะบรรยายความรู้สึกทั้งหมดของผมให้คุณฟังได้
ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมต้องการในชีวิตนี้ ก็คือความรักของคุณ
และถ้าหากว่าผมไม่สามารถไปเห็นแสงเหนือได้
หรือไม่ได้สัมผัสกับความงดงามของหอไอเฟลยามค่ำคืนได้ละก็
โอ้ แต่ถ้าทั้งหมดที่ผมมีคือ มือของคุณกุมมือของผมอยู่แล้วละก็ที่รัก
ผมก็สามารถนอนตายตาหลับได้แล้วแหละตายอย่างมีความสุขเลยแหละที่รัก



I don't need no vacation, no fancy destination
Baby you're my great escape
We could stay at home, listen to the radio
Or dance around the fireplace.


ผมไม่ได้ต้องการวันหยุดเลย ไม่ต้องการจุดหมายปลายทางอันงดงาม
ที่รัก คุณคือสุดยอดที่ลี้ภัยของผม
เราสามารถที่จะใช้เวลาอยู่ที่บ้าน ฟังเพลงจากวิทยุ
หรือจะเต้นรำรอบๆเตาผิงกัน


And if I never get to build my mansion in Georgia
Or drive a sports car up the coast of California
Well if all I got is your hand in my hand
Baby I could die a happy man
Baby I could die a happy man
Oh I could die a happy man
You know I could, girl
I could die, I could die a happy man, hmmmm.


ถ้าหากผมไม่สามารถสร้างแมนชันที่รัฐจอร์เจีย
หรือขับรถสปอร์ตเรียบชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย
แล้วถ้าหาก ทั้งหมดที่ผมมี ก็คือมือของคุณกุมมือของผมไว้ละก็
ที่รัก ผมก็นอนตายตาหลับแล้วหล่ะ
ผมนอนตายแบบมีความสุขเลยหล่ะ
คุณก็รู้ว่าผมสามารถทำได้ ที่รัก
ผมสามารถที่จะนอนตาย นอนตายตาหลับเลยล่ะ


















วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

แปลเพลง Hymn for the weekend by Coldplay

   



    อาทิตย์นี้มีเพลงใหม่ๆปล่อยออกมาเรื่อยๆเลยนะคะ วันนี้ขอนำเสนอเอ็มวีซิงเกิ้ลที่ 2 ของ coldplay ในอัลบัมใหม่ A head full of dreams  ที่พึ่งปล่อยออกมาไม่กี่วันนี้เองค่ะ เพลงนั้นก็คือ Hymn for the weekend นั่นเองค่ะ เพลงนี้ได้ Beyonce มาร่วม featuring แบบ uncredited ค่ะ
     เพลงนี้พี่ Christ จริงๆแกอยากจะให้ชื่อว่า Drink on me ค่ะ ฮ่าๆๆ เพราะอยากจะให้เพลงของวงเค้าจะเป็นเพลงที่คนจะเปิดเวลาที่ผับใกล้ปิดอะไรคล้ายๆเพลง Turn down for what ค่ะ แต่เพื่อนๆในทีมทุกคนคัดค้านไม่ให้เค้าร้องท่อนนี้ค่ะ ฝันพี่คริสสลายค่ะ สุดท้ายก็เลยขอให้ Beyonce ร้องท่อนนี้ให้และเปลี่ยนเป็น drinks from me แทนค่ะ
     เพลงนี้เนื้อหาไม่มีอะไรมากค่ะ ไม่มีคำว่า Hymn for the weekend (บทสวดในวันสุดสัปดาห์) ในเนื้อเพลงด้วย ฮ่าๆ แต่เมโลดีของเพลงเพราะติดหูมากค่ะ เอ็มวีถ่ายที่อินเดียก็นำเสนอได้สวยงามจริงๆค่ะ บียองเซ่ก็สวยกินขาดไปเลยค่ะ ลองฟังกันดูเลยยย







COLDPLAY


Hymn For The Weekend


Drink from me, drink from me (oh-ah-oh-ah)

Then we'll shoot across the (symphony)

Then we'll shoot across the sky

Drink from me, drink from me (oh-ah-oh-ah)

Then we'll shoot across the (oh-ah-oh-ah)

Symphony

(So high, so high)

Then we'll shoot across the sky


มาดื่มมันจากฉัน ดื่มจากฉัน
จากนั้นเราจะพุ่งทะยานข้ามข้าม...
จากนั้นเราจะพุ่งทะยานข้ามท้องฟ้ากัน
มาดื่มจากฉัน ดื่มจากฉัน
จากนั้นเราจะพุ่งทะยานข้าม..
สูงขึ้นไป สูงขึ้นไป
จากนั้นเราจะพุ่งทะยานข้ามท้องฟ้ากัน



Oh, angels sent from up above

You know you make my world light up

When I was down, when I was hurt

You came to lift me up

Life is a drink, and love's a drug

Oh now I think I must be miles up

When I was a river died up

You came to rain a flood


โอ้ว เหล่านางฟ้า พวกเธอถูกส่งมาจากเบื้องบน
เธอจะรู้มั้ย ว่าเธอทำให้โลกของผมสว่างไสว
เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมเศร้าใจ เมื่อไหร่ที่ผมเจ็บปวด
เธอเข้ามาช่วยให้ผมดีขึ้น
ชีวิตก็เหมือนการดื่ม และความรักก็คือยาเสพติดนี่เอง
โอ้ว ตอนนี้ผมคิดว่าผมสูงขึ้นไปอีกไมล์แล้วแหละ
แล้วตอนที่ผมเป็นแม่น้ำที่แห้งเหือด
เธอมาเพื่อเป็นหยาดฝนเติมเต็มให้ผม





So drink from me, drink from me

When I was so thirsty

We're on a symphony

Now I just can't get enough

Put your wings on me, wings on me

When I was so heavy

We're on a symphony

When I'm lower, lower, lower,


มาดื่มมันจากฉัน ดื่มจากฉัน
เวลาที่ฉันรู้สึกกระหาย
เราอยู่ในท่วงทำนองเดียวกัน
ตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามันยังไม่พอ
มอบปีกของเธอให้ฉัน ใส่ปีกลงบนตัวฉัน
ตอนที่ฉันตัวหนักอึ้ง
เราอยู่ในท่วงทำนองเดียวกัน
เวลาที่ฉันต่ำลงๆ




Got me feeling drunk and high

So high, so high

Oh-ah-oh-ah-oh-ah

I'm feeling drunk and high

So high, so high

(Woo)

(Woo-ooo-ooo-woo)


ผมรู้สึกมึนเมาและโบยบินขึ้นสูง
สูงขึ้นไป สูงขึ้นไป
ผมรู้สึกมึนเมาและโบยบินขึ้นสูง
สูงขึ้นไป สูงขึ้นไป



Oh, angels sent from up above

I feel it coursing through my blood

Life is a drink, your love's about

To make the stars come out


โอ้เหล่านางฟ้าทั้งหลายถูกส่งลงมาจากเบื้องบน
ผมรู้สึกได้ว่ามันกำลังวิ่งเข้าสู่กระแสเลือดของผมเลยหล่ะ
ชีวิตก็เหมือนกับการดื่ม แล้วความรักอ่ะนะ
มันก็เหมือนกับการทำให้เหล่าดวงดาวปรากฎออกมานี่แหละ


Put your wings on me, wings on me

When I was so heavy

We're on a symphony

When I'm lower, lower, lower



มอบปีกของเธอให้ผม ใส่มันลงบนตัวผมนี่
ในตอนทีตัวผมมันหนักอึ้งแบบนี้
เราอยู่ในท่วงทำนองเดียวกัน
เมื่อยามที่ผมต่ำลง ต่ำลงไป





Got me feeling drunk and high

So high, so high

Oh-ah-oh-ah-oh-ah

I'm feeling drunk and higt

So high, so higt

Then we'll shoot across the sk


แปลเพลง Wanted by OneRepublic

          สวัสดีวันเสาร์สดใสค่ะ เมื่อวานนี้มีข่าวดีของวงโปรดของเราพึ่งจะออก single ใหม่มาค่ะ ก็คือเพลง wanted นั่นเอง เป็นซิงเกิลที่ 2...

หน้าเว็บ